วัฒนธรรมตุรกี

ประเทศตุรกี นั้นประกอบไปด้วยประชากรชาวเติร์กประมาณร้อยละ 80 ชาวเคิร์ดประมาณร้อยละ 20 ซึ่งชาวเคิร์ดจะมีการอาศัยอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ต่อกับพรมแดนของอิรัก ซีเรียและอิหร่านแต่โดยส่วนมากแล้วประชากรของตุรกีจะนับถือศาสนาอิสลามกว่าร้อยละ 99 % แต่ก็ถือได้ว่าเป็นประเทศอิสลามที่ไม่ค่อยจะเคร่งครัดตามจารีตเดิมของมุสลิม

ศาสนาของตุรกี

การแต่งกาย ตุรกี

ส่วนในเรื่องของการแต่งกายของชาวตุรกีที่จะมีความคล้ายกับชาวตะวันตกและผู้หญิงของประเทศตุรกีก็จะได้รับความเท่าเทียมในสังคมรากฐานทางสังคมที่มีลักษณะเป็นครอบครัวขยายที่จะมีความสัมพันธ์กันทั้งสายการแต่งงานและทางสายเลือดซึ่งจะเป็นการที่ยึดถือการสืบทอดทางของฝั่งชายและยิ่งในปัจจุบันนี้ที่จะมีการรณรงค์ส่งเสริมเกี่ยวกับเรื่องของความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิง

เชื้อสายตุรกี

เชื้อสายตุรกี มีต้นกำเนิดในทางมนุษย์วิทยาที่โดยส่วนใหญ่จะมีการสืบทอดมาจากชนเชื้อสาย Tukic หรือ Turk ที่ได้มีการอพยพเข้ามายังอนาโตเลียจากเอเชียกลางในทศวรรษที่ 11 ซึ่งเติร์กก็นับว่าเป็นชนชาติที่เป็นดั้งเดิมของประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาแล้วหลายพันปี ส่วนเรื่องของถิ่นกำเนิดเดิมของชนเชื้อเติร์กอยู่ในแถบเทือกเขาอัลไต (Altai Mountain) ในเอเชียกลาง (บริเวณตอนเหนือของประเทศมองโกเลียในปัจจุบัน)

เชื้อสายตุรกี

 

ด้วยสาเหตุนี้เองที่ชนเชื้อสายเติร์กจึงได้ถูกขนานนามว่า Altaic peoples และได้มีการถูกบันทึกของจีนในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาลที่ได้กล่าวเกี่ยวกับพวกเร่ร่อนที่อาศัยอยู่ในแถบเทือกเขาอัลไตที่จีนได้เรียกชนกลุ่มนี้ว่า Hsiung-nu หรือ Hun และถ้าพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องหน้าตาของชาวตุรกีก็จะไม่ค่อยเหมือนกับชาวเติร์กในเอเชียกลางมากนัก แต่อาจจะเพราะว่ามีการแต่งงานข้ามชาติพันธ์ในช่วงที่บรรพบุรุษของชาวตุรกีในปัจจุบันนี้ที่ได้อพยพมาจากเอเชียกลางที่ได้มาจากทางทิศตะวันตกมาตั้งหลักในอนาโตเลียศตวรรษที่ 11 แต่ก็ยังไม่ได้มีหลักฐานที่แน่ชัดว่า ชนเก่าแก่เหล่านั้นที่เคยอาศัยอยู่ในอนาโตเลียก่อนที่เติร์กจะได้เข้ามา เช่น ฟรีเกีย ฮิตไตต์ ลิเดีย อูราทู ลิเซียและยังมีอีกหลายกลุ่มชนที่มีจำนวนหลงเหลืออยู่มากเท่าใดนักถึงแม้ว่าอาณาจักรของชนเหล่านี้จะมลายหายไปแล้วแต่ว่าผู้คนในอาณาจักรก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมลายหายตามไปด้วย

แต่งกาย

ส่วนทางด้านในเรื่องของการแต่งกายของผู้หญิงตุรกีก็จะมีการสวมเสื้อเชิ้ตที่เรียกกันว่า มินตันและกางเกงขาพอง กระโปรงที่มีสามชิ้นพร้อมด้วยสวมผ้าคลุมศรีษะ ส่วนผู้ชายก็จะมีการสวมเสื้อเชิ้ตแบบที่ไม่มีปกทับด้วยเสื้อกั๊กหรือว่าจะเป็นแจ็คเก็ตสั้นแบบผ่าแขนที่เรียกกันว่า เซปเกนส่วนกางเกงจะสวมแบบขาพองนั่นเอง