มีการรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศว่า กองทัพตุรกีได้เดินหน้าบุกพื้นที่ทางภาคเหนือของทางซีเรียอย่างหนักหน่วงเป็นวันที่ 2 จึงเป็นสาเหตุให้ชาวบ้านนับหมื่นคนต่างพากันอพยพและในตอนนี้ได้มีข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้หลายสิบรายด้วยกัน
ภายหลังจากที่ทางด้านของตุรกีได้มีการส่งกองกำลังภาคพื้นเข้าโจมตีดินแดนที่มีชาวเคิร์ดอยู่และทางด้านของตุรกีได้เผยว่า ได้บุกเข้าไปยึดพื้นที่เป้าหมายได้แล้วหลายจุดรวมไปถึงสังหารนักรบติดอาวุธไปแล้วหลายรายด้วยเช่นกัน สำหรับในการโจมตีของตุรกีในครั้งนี้ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ระหว่างเมืองราสอัล –ไอน์/เมือง อับยาด ที่อยู่ทางด้านของชายแดนตุรกีและในเวลานี้หมู่บ้านทางตะวันออกของทาล อับยาด ก็ได้มีการถูกยึดไว้แล้วจากกองกำลังซีเรียเสรี
ในส่วนของโฆษกกลุ่ม FSA ได้มีการออกมาเผยว่า..
ในเมืองทั้งสองแห่งนี้ได้ถูกล้อมเอาไว้ทั้งหมดแล้วและในส่วนของกองกำลังประชาธิปไตยซีเรียได้เผยว่า.. ขณะนี้ได้มีการโจมตีเกิดขึ้นอย่างหนักจากทั้งเครื่องบินและปืนใหญ่เป็นเหตุให้มีผู้คนเสียชีวิตไปแล้วหลายรายแต่เขาได้อ้างว่า พวกเขานั้นสามารถที่จะตอบโต้กกองทัพตุรกีในส่วนของทางพื้นที่ตะวันออกของแม่น้ำจาลับและยังทำลายยานพาหนะของทางฝั่งกองทัพได้ไปถึง 3 คันและสังหารได้ไปถึง 22 คนเลยทีเดียว
และในขณะเดียวกันที่ทางด้านของโฆษก SDF ได้ออกมาปฏิเสธเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ ที่ทางด้านนายเรเจป ไตยิป เอร์โดอัน ได้กล่าวว่า… “ได้มีนักรบที่ถูกจับได้ 109 รายรวมไปถึงที่บาดเจ็บและโดนสังหาร”
ในด้านของกลุ่มสังเกตุการณ์เพื่อมนุษยชนของซีเรียที่ได้มีการออกมาเปิดเผยว่า..
“ทั้งนี้มีนักรบ SDF เสียชีวิตทั้งหมด 16 รายด้วยกันและยังได้รับบาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน”
ในส่วนของสภากาชาดชาวเคิร์ดที่ได้กล่าวว่า..
“มีผู้คนเสียชีวิตทั้งหมด 7 รายบาดเจ็บอีก 19 คนและได้มีการชี้ชัดว่ามีผู้คนกว่าหกหมื่นคนที่ต่างพากันอพยพออกจากพื้นที่อาศัย”
ในส่วนของตุรกีทีได้เผยว่า.. ในการโจมตีครั้งนี้นั้นเป็นการสร้างเขตปลอดภัยหรือ Save Zone แต่สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ที่เหล่าประชาคมโลกต่างก็กังวลใจกันนั้นก็จะเป็นเรื่องของชะตากรรมของเหล่านักรบกลุ่มรัฐอิสลามที่ได้ถูกกองกำลังชาวเคิร์ดจับกุมตัวไว้นั่นเอง