จากการรายงานข่าวล่าสุดทางด้านของรองนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ พร้อมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมเป็นประธานในการลงนามเอ็มโอยู ระหว่างนักธุรกิจของประเทศไทยและตุรกี ที่จะเป็นในส่วนของกลุ่มสินค้าทางการเกษตรที่มีมูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาทอย่างเช่น ข้าว /มันสำปะหลัง /ยางพารา ที่ได้มีการรับรายงานถึงเรื่องดังกล่าวนี้ว่า…
สำหรับในการลงนามครั้งนี้ที่สามารถซื้อขายยางพาราได้มากถึงหกหมื่นตัน รวมมูลค่า 2,727 ล้านบาท /มันสำปะหลัง 150,000 ตันรวมมูลค่ากว่า 650 ล้านบาทและ ข้าวหกพันตันรวมมูลค่า 85 ล้านบาทที่โดยรวมแล้วคิดเป็นเงินกว่า 3,512 ล้านบาทเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นยังได้มีการร่วมกันผลักดันภาคเอกชนในกิจกรรม Business Networking ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพของไทยเรารวมไปถึงอุตสาหกรรมยางพารา อาหารต่าง ๆ ของประเทศไทยเราซึ่งเรื่องนี้ได้มีการร่วมพูดคุยกันและได้เพิ่มเติมลงนามในการจัดจำหน่ายหมอนยางพารากว่า 20 ล้านชิ้นที่คิดเป็นจำนวนเงินมากถึง 12,000 ล้านบาท เรียกได้ว่าในการเดินทางครั้งนี้นั้นสร้างรายได้เข้าประเทศได้เป็นจำนวนเงินมากถึง 15,500 ล้านบาทเลยทีเดียว
ถือได้ว่าประเทศตุรกีมีตลาดที่ค่อนข้างใหญ่และยังมีประชากรกว่า 80 ล้านคน ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่คิดในแต่ละปีที่มีกว่า 40 ล้านคนรวมไปถึงประเทศตุรกียังอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ทางการค้าที่นับว่าเป็นประตูที่สามารถเชื่อมโยงการค้าระหว่างกันได้ ลำดับต่อไปประเทศไทยเราจะมีการเจรจา FTA กับทางด้านตุรกีที่คาดการณ์ว่าจะสำเร็จในช่วงปีหน้าอย่างแน่นอนครับ